วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557



        สื่อเทคโนโลยี หมายถึง สื่อการเรียนรู้ที่ผลิตขึ้นใช้ควบคู่กับเครื่องมือโสตทัศนวัสดุ หรือเครื่องมือที่เป็น เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น แถบบันทึกภาพพร้อมเสียง (วิดีทัศน์) แถบบันทึกเสียง ภาพนิ่ง สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน นอกจากนี้สื่อเทคโนโลยี ยังหมายรวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการเรียนรู้ เช่น การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นต้น

ไฮเปอร์บุ๊ก (Hyperbook)



หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แต่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็คือ หนังสือที่เก็บอยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ หรือเก็บไว้อยู่ในแบบของไฟล์ โปรแกรมส่วนมากที่เข้าใจกันคือ หนังสือที่เก็บในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้กระดาษและมีการสร้างจากคอมพิวเตอร์และสามารถอ่านได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอ(Personal Digital Assistant) Palm และ PocketPC หรือกระทั่งอ่านได้จากโทรศัพท์มือถือบางรุ่น

E-book เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้วยความสะดวกสบายของทั้งการสร้าง E-book ความสะดวกในการพกพา ขนาดที่เล็ก และสามารถอ่านได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอุปกรณ์พกพาที่สามารถอ่าน E-book ได้ สามารถสร้างให้ E-book นอกจากจะมีสีสันสวยงามเพื่อง่ายต่อการอ่าน และทำความเข้าใจแล้ว ยังสามารถใส่เสียง ภาพเคลื่อนไหว สร้างสารบัญ (Link) หรือการคลิกเพื่อส่ง E-Mail ไปยังผู้เขียน หรือ E-Mail ใน E-book ก็ได้


ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext)
            
           
                  ไฮเปอร์เท็กซ์ หมายถึง ข้อความหรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยมีการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์ โดยการนำข้อความที่ใช้ มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะมีลักษณะเด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ การเน้นด้วยสี ตัวหนา หรือตัวเอียง เป็นต้น

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โครงงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา



โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
          เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
          โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
         

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเชื่อมต่อทางคอมพิวเตอร์

การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย

ประเภทของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up
          เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต 

2.การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network)
        เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ
        
ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN การเชื่อมต่อต้องใช้ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการISDN ได้หรือไม่

3.การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line)
         เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ   ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่ บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL การเชื่อมต่อต้องใช้DSL Modem ในการเชื่อมต่อ 
ต้องติดตั้ง
 Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย 

4.การเชื่อมต่อแบบ Cable
         เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ
ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย

5.การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)
         เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต


ที่มา
 http://www.bkk1.in.th/Topic.aspx?TopicID=4865

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่

Leap Motion


Microsoft Kinect อาจจะเคยทำให้เราได้ตื่นเต้นในการเล่นเกมส์ แต่ Leap Motion ได้พาเราขยับเข้าใกล้อุปกรณ์ที่อาจจะใช้ทดแทนเมาส์และคียบอรด์แบบ"ไร้สัมผัส" ได้จริงเป็นครั้งแรก ด้วยเซนเซอร์ที่กล่าวกันว่าดีกว่าการควบคุมแบบไร้สัมผัสยี่ห้ออื่นในตลาดถึง 200 เท่า มาพร้อมขนาดเล็กเท่ากับไซส์ของมือถือ สามารถต่อพอรท์ USB ทั่วไป ใช้งานร่วมกับโน๊ตบุ๊คและจอคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา แถมเปิดตัวด้วยราคาถูกมากเพียง U$70 พร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ววันนี้

http://forums.thaisecondlife.net/index.php?topic=3052.0

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำศัพท์ทางคอมพิวเตอร์ ที่น่านสนใจ

1. Operator = ผู้ควบคุม

2. Cursor = แสงกระพริบบอกตำแหน่ง

3. Hardware = อุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอก

4. Copy = คัดลอก

5. Source = แหล่งกำเนิดข่าวสาร

6. Main Memory unit = หน่วยความจำหลัก

7. Secondary memory unit = หน่วยความจำรอง

8. Keyboard = แป้นพิมพ์

9. Word = คำหรือคำศัพท์

10. Delete = ลบข้อมูล

11. Online = การติดต่อ

12. Upload = การโหลดข้อมูลลงเครื่อง

13. Network = เครือข่าย

14. Fax modem = โมเด็มที่ส่งแฟกซ์ได้

15. Web Site = หน้าต่างของอินเทอร์เน็ต

16. Antivirus Program = โปรแกรมป้องกันไวรัส

17. Computer System = ระบบคอมพิวเตอร์

18. Information System = ระบบข้อมูล

19. Computer Network = ระบบเครือข่าย

20. User = ผู้ใช้

21. Account = บัญชีผู้ใช้

22. USB = หน่วยเก็บข้อมูล

23. .net = แสดงเว็บของบริษัท

24. Keyword = รหัสของบางโปรแกรม

25. Multimedia = สื่อประสม

26. Bus = การเชื่อมต่อเครือข่าย

27. Browser = เป็นชื่อใช้เรียกซอฟต์แวร์

28. Bug = ความผิดพลาดของคอม

29. Database = ฐานข้อมูล

30. CD-ROM = ตัวจัดการกับแผ่นต่างๆ

31. Compact Disc = อุปกรณ์ประเภทแผ่น

32. Mouse = เมาส์

33. Light pen = ปากกาแสง

34. Track ball = ลูกกลมควบคุม

35. Joystick = ก้านควบคุม

36. Touch screen = จอสัมผัส

37. Control Unit = หน่วยควบคุม

38. Rom = หน่วยความจำแบบอ่าน

39. Diskette = แผ่นบันทึก

40. Harddisk = ฮาร์ดดิสก์

41. Magnetic Tape = เทปแม่เหล็ก

42. Monitor = จอภาพ

43. Printer = เครื่องพิมพ์

44. Laser printer = เครื่องพิมพ์เลเซอร์

45. Line printer = เครื่องพิมพ์รายบรรทัด

46. Speaker = ลำโพง

47. Microsoft Word = โปรแกรมเวิร์ด

48. Microsoft Excel = โปรแกรมเอกเซล

49. Microsoft PowerPoint = โปรแกรมเพาเวอร์พอยต์

50. Desktop = โปรแกรมเดสทอป

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การใช้ Application เพื่อการศึกษา

Daily English Conversations - ฝึกพูดอังกฤษในชีวิตประจำวัน

แนะนำ:ใครที่อยากจะเริ่มต้นฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษกันอย่างจริงจังสักที App ที่จะแนะนำต่อไปนี้น่าจะช่วยคุณได้มากทีเดียว Daily English Conversations เป็นแอปที่นำเสนอบทสนทนาพื้นฐานที่ใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยรูปลักษณ์ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ที่มีทั้ง Text เนื้อหาบทสนทนาและ Audio ไฟล์เสียงให้ดาวน์โหลดมาฟังประกอบได้โดยทันที in IOS



มื่อเปิดเข้าไปที่หน้าแรกของแอปก็จะเห็นหัวข้อต่างๆ ขึ้นมา เนื้อหาของบทสนทนาแบ่งย่อยๆ เป็น 25 ประเด็นของการพูดคุย และแต่ละประเด็นนั้นก็แยกย่อยออกเป็นเรื่องต่างๆ อย่างประเด็นสนทนาเรื่องแรก small talk (การพูดคุยเรื่องเล็กน้อยทั่วไป) ก็แบ่งเป็นเรื่องต่างๆ ได้อีก 24 เรื่อง เช่น greeting (การทักทาย) weather (การพูดคุยเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ) calling a friend (โทรหาเพื่อน) เป็นต้น
แต่ก่อนจะเข้าไปดูเนื้อหาย่อยในแต่ละประเด็น คุณอาจคลิกเข้าไปดูเมนูที่อยู่มุมบนซ้ายมือ ข้างโลโก ซึ่งจะมีคำสั่งดาวน์โหลดที่จะช่วยให้คุณดาวน์โหลดบทสนทนาทั้งหมด 1,611 เรื่องในทีเดียว คุณอาจจะเลือกดาวน์โหลดที่ตรงนี้ก่อนจะเข้าไปดูเนื้อหาในบทสนทนา หรือคุณจะเข้าไปที่เนื้อหาแต่ละเรื่อง แล้วก็เลือกดาวน์โหลดทีละเรื่องหรือเฉพาะเรื่องที่สนใจ โดยจะมีปุ่มดาวน์โหลดที่มุมบนขวามือ หรือคุณจะคลิกที่เครื่องเล่น play ก็จะทำการดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติมาไว้ในเครื่อง คราวหน้ากลับมาฟังใหม่อีกครั้งก็ไม่ต้องโหลดซ้ำอีก

เมื่อเข้าไปที่บทสนทนา จะเห็นแต่หัวข้อก่อน บทสนทนาถูกซ่อนไว้ เผื่อใครอยากจะฝึกฟังโดยไม่ต้องดูบท แต่ถ้าฟังเป็นครั้งแรกก็อาจจะต้องดูบทประกอบด้วยให้คลิกที่ Show script ตัวบทสนทนาก็จะปรากฏขึ้น และในบทสนทนาเรื่องเดียวกันนั้น ถ้าเราลองใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอจากขวามาซ้ายก็จะมีบทอื่นๆในเรื่องเดียวกัน แต่ใช้สำนวนภาษาแตกต่างกัน จำนวนบทสนทนาให้ดูที่หัวข้อ เช่น Conversation 1/3 ก็แสดงว่าในหัวข้อนี้มีอยู่สามบทสนทนา

รวมแล้วทั้ง 25 ประเด็นพูดคุยมีบทสนทนาย่อยๆ รวมกันมากกว่า 1611 บท เรียกว่าเหลือเฟือและครอบคลุมในทุกประเด็นเลยทีเดียว และก็ไม่รู้ว่าจะฟังได้ครบทุกบทหรือเปล่านะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความเพียรพยายามของแต่ละคนกันแล้วล่ะค่ะ แต่ขอให้จำไว้ว่าภาษาอังกฤษเป็นวิชาทักษะที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน กว่าจะฟังจนคุ้นหู และพูดได้คล่องก็ต้องอดทนค่ะ ความเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัว ขอแต่เพียงมีความตั้งใจมุ่งมั่น ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแน่นอน 

ภัยจาการใช้อินเทอร์เน็ต

ภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ท
ภัยข้อแรก ภัยจากการแชท การแชท หมายถึง การพูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ต เป็นภัยที่พบง่ายและบ่อยที่สุด บางครั้งเราอาจกำลังสนทนาอยู่กับคนที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากเราอยู่ก็ได้ ถ้าเราเผลอให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือนัดเจอคนที่รู้จักกันทางเน็ต เราอาจตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ได้ คนเหล่านี้เล่นแชท เพราะเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน , มีปมด้อย , อยากหาแฟน , เพ้อฝันว่าอาจจะได้เจอสิ่งดีๆ ในเนต ,โรคจิต , แสวงหาผลประโยชน์จากคนที่ไม่รู้ , หาความรู้โดยไม่อยากเสียเงิน หรือเล่นไปงั้นๆ แหละ เพื่อนบอกให้ลอง
ภัยข้อที่ 2 ภัยจากการเล่นเกมส์ออนไลน์ เป็นเหมือนกับยาเสพติดดีๆ นี่เอง เพราะเมื่อเล่นแล้วทำให้ไม่อยากหยุดเล่น อยากทำคะแนนให้ได้เยอะๆ ได้ level ที่สูงขึ้น อยากอวด อยากเอาชนะคนอื่น ปัจจุบันเกมส์ออนไลน์มีมากมาย บางเกมส์ส่อไปในทางลามกอนาจาร มีการนำเสนอภาพที่รุนแรง บางเกมส์มีการขายของที่อยู่ในเกมส์ หลายคนเคยตกเป็นเหยื่อเพราะโดนหลอกซื้อของที่อยู่ในเกมส์ก็มี นักเรียนต้องรู้จักข่มใจตนเอง เลือกเล่นเฉพาะเกมที่สร้างสรรค์ กำหนดเวลาเล่นให้เป็น ไม่ใช่เล่นเอาเป็นเอาตาย สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบั่นทอนทำให้เสียสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงเสียการเรียนด้วย
ภัยข้อสุดท้าย ภัยจากการท่องเวบ ภัยจากการท่องเว็บอันดับ 1 คือ การโฆษณาหลอกลวงขายสินค้า เช่น สั่งซื้อของจ่ายเงินแล้วแต่ไม่ได้ของก็มี 2. เว็บดาวน์โหลด ถ้าดาวน์โหลดสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะมีไวรัสแถมมาด้วย หรือบางเว็บแค่คลิกเข้าไปก็โดนไวรัสแล้ว 3. เว็บโป๊ อนาจาร 4. เว็บบอร์ด กระดานถามตอบ อาจมีการโพสต์ข้อความชวนเชื่อ โกหกบ้าง จริงบ้าง ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพเพื่อกลั่นแกล้งกันก็มี 4. ภัยจากอีเมล์ก็มีไวรัส หรือภาพโป๊ ฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ไร้สาระ ถ้ามีเมล์ที่เราไม่รู้จักเข้ามา ก็ควรลบทิ้ง

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อุปกรพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์

ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)

harddisk คือ   อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลได้มาก  สามารถเก็บได้อย่างถาวรโดยไม่จำเป็นต้องมีไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา  เมื่อปิดเครื่องข้อมูลก็จะไม่สูญหาย ดังนั้น  Hard Disk  จึงถูกจัดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บระบบปฏิบัติการ  โปรแกรม  และข้อมูลต่าง  ๆ  เนื่องจาก  Hard Disk  เป็นอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการอัพเกรดทำให้เทคโนโลยี  Hard Disk  ในปัจจุบันได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นการเลือกซื้อ  Hard Disk   จึงควรคำนึงซึ่งประสิทธิภาพที่จะได้รับจาก  Hard Disk




VGA CARD

  คือ เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความสำคัญ และถือเป็นหัวใจหลักในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้ และตัวระบบคอมพิวเตอร์ โดยการนำข้อมูลที่แปลความหมายจากระบบที่มีข้อมูลแบบดิจิตอล เพื่อการสั่งต่อไปทำการควบคุมการสร้างภาพให้กับจอภาพ แปรเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของตัวอักษร หรือ รูปภาพ ทำให้ผู้ใช้ สามารถควบคุมการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
VGA Card มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการประมวลผลภาพนั้น VGA card เป็นผู้ประมวลผลเองโดย Chip นั้นได้เปลี่ยนเป็น GPU (Graphic Processing Unit) ซึ่งจะมีการประมวลภาพในตัว Card 

อุปกรณ์พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์

ฐานทาง

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ตัวอย่างการใช้งานDSS


ตัวอย่างการใช้งานระบบ DSS ในบริษัทไฟร์สโตน 
       
        บริษัทไฟร์สโตน (Firestone Rubber & Tire) ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการออกแบบยางรถยนต์ยี่ห้อใหม่ ระบบช่วยให้นักวิเคราะห์มองเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผลทางด้านการเงินในอดีตกับตัวแปรภายนอก เช่น จำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแล้วนำมาสร้างโมเดลในการพยากรณ์ขาย
ด้วยโมเดลต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ช่วยให้นักวิเคราะห์ของบริษัทไฟร์สโตน สามารถสร้างฐานข้อมูลที่บรรจุยางของคู่แข่งทั้งหมด 200 ยี่ห้อ รวมทั้งข้อมูลในการผลฺต แรงกด และปริมาณการขาย ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลนี้สำหรับการกำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขัน ระบบช่วยให้องค์การสามารถนำเอาประเด็นด้านเทคโนโลยีมาผนวกกับด้านการเงินในการตัดสินใจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยสนับสนุนให้มีการตัดสินใจร่วมกันของหน่วยงานตามหน้าที่ต่างๆ ในองค์การ
คำถาม ข้อความจาก: 
http://katib10.blogspot.com/2008/01/dss.html



แผนผังการใช้งานระบบ DSS

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ใบงานที่ 2


ประเภทของระบบสารสนเทศ


1)ชื่อ : ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ(TPS:Transaction Processing Systems )
ลักษณะ: การบันทึกและประมวลข้อมูล
การใช้งาน : บันทึกและประมวลข้อมูลที่เกิดจากการซื้อขายสินค้า การบันทึกจำนวนวัสดุคงคลัง เมื่อใดก็ตามที่มีการทำธุรกรรมหรือปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะเกิดขึ้นทันที เช่น ทุกครั้งที่มีการขายสินค้า ข้อมูลที่เกิดขึ้นก็คือ ชื่อลูกค้า ประเภทของลูกค้า จำนวนและราคาของสินค้าที่ขายไป รวมทั้งวิธีการชำระเงินของลูกค้า

2)ชื่อ : ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง(EIS:Excutive Information System)
ลักษณะ : สนับสนุน สารสนเทศและการตัดสินใจ
การใช้งาน:เป็นระบบที่สร้างขึ้น เพื่อสนับสนุน สารสนเทศและการตัดสินใจสำหรับผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ หรือ สามารถกล่าวได้ว่าระบบนี้คือส่วนหนึ่งของ DSS ที่แยกออกมา เพื่อเน้นการให้สารสนเทศที่สำคัญต่อการบริการแก่ผู้บริหาร





ใบงานที่ 1

กระบวนการการทำงานของระบบสารสนเทศ


ระบบสารสนเทศที่ข้าพเจ้าเคยใช้ คือ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทาง อินเทอร์เนต

ตัวอย่างอื่นๆ เช่่น  “การลงทะเบียนเรียนคือ การลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาแต่ละคนสามารถเลือกเรียนวิชาที่สนใจได้ แต่ต้องเป็นวิชาที่กำหนดไว้ในหลักสูตร การลงทะเบียนแต่ละวิชามีข้อจำกัดคือ จำนวนนักศึกษาแต่ละห้องมีจำนวนจำกัด ดังนั้นการลงทะเบียนเรียนจึงต้องอาศัยข้อมูลจากการประมวลผลแบบเชื่อมตรง เพื่อให้สามารถตรวจสอบการลงทะเบียนได้ทันทีว่า มีวิชาอะไรเปิดสอนบ้าง วิชาใดมีผู้สมัครเรียนเต็มแล้ว ถ้าเต็มแล้ว สามารถเปลี่ยนกลุ่ม หรือวิชาอื่นใดแทนได้บ้าง

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ



ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ 

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System)
        ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เป็นระบบย่อยหนึ่งในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ โดยที่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะช่วยผู้บริหารในเรื่องการตัดสินใจในเหตุการณ์หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่มีโครงสร้างแน่นอน หรือกึ่งโครงสร้าง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจจะใช้กับบุคคลเดียวหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเป็นกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีระบบสนับสนุนผู้บริหารเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
        ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ได้เริ่มขึ้นในช่วง ปี ค.ศ. 1970 โดยมีหลายบริษัทเริ่มที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อที่จะช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน หรือกึ่งโครงสร้างโดยข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ซึ่งระบบสารสนเทศเดิมที่ใช้ในลักษณะระบบการประมวลผลรายการ (Transaction processing system) ไม่สามารถกระทำได้ นอกจากนั้นยังมีวัตถุประสงค์เพื่อลดแรงงาน ต้นทุนที่ต่ำลงและยังช่วยในเรื่องการวิเคราะห์การสร้างตัวแบบ (Model) เพื่ออธิบายปัญหาและตัดสินใจปัญหาต่างๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1980 ความพยายามในการใช้ระบบนี้เพื่อช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจได้แพร่ออกไป ยังกลุ่มและองค์การต่างๆ


A Decision Support System (DSS)

   A Decision Support System (DSS) is a computer-basedinformation system that supports business or organizationaldecision-making activities. DSSs serve the management, operations, and planning levels of an organization (usually mid and higher management) and help to make decisions, which may be rapidly changing and not easily specified in advance (Unstructured and Semi-Structured decision problems). Decision support systems can be either fully computerized, human or a combination of both.
While academics have perceived DSS as a tool to support decision making process, DSS users see DSS as a tool to facilitate organizational processes. Some authors have extended the definition of DSS to include any system that might supportdecision making. Sprague (1980) defines DSS by its characteristics.